วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

10 ผลไม้ที่ควรกินตอนเช้า นาทีที่ 6.00 1. กล้วย กล้วยมีแร่ธาตุและวิตามินสูง อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลจากธรรมชาติที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที และคาร์โบไฮเดรตช่วยเติมพลังให้กับร่างกายแบบไม่ต้องพึ่งพาแป้งหรือน้ำตาลชนิดอื่น ๆ ขณะที่โพแทสเซียมในกล้วยก็ยังช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ ยังไม่นับรวมไฟเบอร์ที่พบได้ในผลไม้เกือบทุกชนิด 2. เกรปฟรุต ผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ เหมาะจะเป็นผลไม้สำหรับมื้อเช้าเพื่อคนลดน้ำหนัก เพราะมีการศึกษาพบว่าการรับประทานเกรปฟรุตครึ่งผลก่อนรับประทานอาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงไวกว่าปกติ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือดได้ รวมทั้งระบบการเผาผลาญไขมันก็จะทำงานได้มากขึ้น ขณะที่วิตามินซีในเกรปฟรุตก็ยังทำหน้าที่สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และความฉ่ำของเกรปฟรุตก็ยังช่วยเติมน้ำให้กับร่างกายไม่ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำในตอนเช้าด้วย แต่สำหรับใครที่อยู่ในช่วงการใช้ยาเพื่อรักษาอาการบางอย่าง ควรระมัดระวังไว้หน่อย เพราะสารอาหารที่อยู่ในเกรปฟรุตอาจมีผลข้างเคียงกับยา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อเกรปฟรุตมารับประทาน 3. บลูเบอร์รี ไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รีสดหรือแช่แข็ง ผลไม้ชนิดนี้ก็ยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีเกินคาด ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่อย่างมากมาย โดยมีการศึกษาพบว่าคนที่รับประทานบลูเบอร์รีเป็นประจำจะมีความจำและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี ความดันโลหิตเป็นปกติ และระบบเผาผลาญของร่างกายก็จะทำงานดีตามไปด้วย นั่นก็เป็นเพราะสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่ในบลูเบอร์รี่นั่นเอง นอกจากนี้บลูเบอร์รียังมีแคลอรีต่ำ ช่วยลดน้ำหนักได้ 4. แตงโม แตงโม ผลไม้ฉ่ำน้ำชนิดนี้จะช่วยเติมความชุ่มฉ่ำให้กับคุณในยามเช้า อีกทั้งสารไลโคปีนที่อยู่ในแตงโม อันเป็นสารอาหารที่พบได้ในอาหารที่มีสีแดง ก็ยังช่วยในการมองเห็น บำรุงสุขภาพหัวใจ และป้องกันโรคมะเร็ง แถมยังมีแคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง เหมาะจะเป็นอาหารเช้าสำหรับคนลดน้ำหนักอย่างที่สุด แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะไฟเบอร์ในแตงโมหากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ถ่ายท้องได้ 5. สตรอว์เบอร์รี ผลไม้ในตระกูลเบอร์รีอีกชนิดที่อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ การรับประทานสตรอว์เบอร์รีเพียง 1 ถ้วยก็ทำให้เราได้รับปริมาณวิตามินซีเทียบเท่ากับความต้องการต่อวัน โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของแคลอรี ไม่เพียงเท่านั้น ในสตรอว์เบอร์รียังมีกรดโฟลิก และไฟเบอร์ซึ่งช่วยในระบบขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูก 6. แคนตาลูป หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าแคนตาลูปเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี การรับประทานแคนตาลูป 1/4 ของผลก็ทำให้เราได้รับวิตามินซีในปริมาณเท่าความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยให้พลังงานแค่ 50 แคลอรี นอกจากนี้ในแคนตาลูปก็ยังมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาและบำรุงผิวอีกด้วย 7. กีวี กีวี ไม่เพียงช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการแบบเน้น ๆ อาทิ วิตามินซี โพแทสเซียม ทองแดง และไฟเบอร์ที่มีสูงกว่ากล้วย จึงทำให้ผลไม้ชนิดนี้ดีกับสุขภาพอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ทั้งท้องผูกหรือลำไส้แปรปรวน หากรับประทานกีวีอย่างน้อยวันละ 2 ผลเป็นประจำ จะช่วยให้อาการท้องผูกลดลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ 8. ราสเบอร์รี ราสเบอรีผลไม้ในตระกูลเบอร์รีนอกจากจะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่มีเยอะทัดเทียมกับผลไม้ในกลุ่มเดียวกันแล้ว ยังมีไฟเบอร์ วิตามินซี และวิตามินเคที่ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง 9. ส้ม ส้มไม่ว่าจะรับประทานแบบสด ๆ หรือคั้นเป็นน้ำผลไม้ ส้มก็ยังคงอุดมไปด้วยคุณค่าอย่างมหาศาล เพราะไม่เพียงแค่วิตามินซีสูง แต่ยังมีวิตามินดีที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน โรคซึมเศร้า และโรคมะเร็งได้ด้วย ยังไม่รวมถึงไฟเบอร์ที่มีมากมายที่ช่วยลดอาการท้องผูก และทำให้อิ่มนานขึ้น แต่ก็ต้องระวังอย่ารับประทานเยอะจนเกินไป เพราะส้มเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลและแคลอรีสูง อย่างน้อยแค่เช้าละ 1 ผล หรือจะรับประทานเป็นน้ำส้มคั้นสดก็ดีเช่นกัน 10. แครนเบอร์รี แครนเบอร์รีเป็นผลไม้ที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ช่วยบำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ในด้านการรักษาโรคมะเร็ง แครนเบอร์รียังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้การรักษาโรคมะเร็งรังไข่อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าสูงมากเลยทีเดียว แต่ทว่าเจ้าแครนเบอร์รีก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลและแคลอรีสูงเช่นกัน ดังนั้นจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ จะได้ไม่กระทบถึงระดับน้ำตาลในเลือด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น